เทศกาลกินเจปีนี้ ละเว้นการทานเนื้อสัตว์ได้ครบเทศกาลเลยค่ะ
ดีใจและภูมิใจมากๆ เช่นเดียวกับที่ปีที่แล้วเลย
ปีที่แล้วที่มีเทศกาลกินเจถึงสองครั้งในรอบร้อยกว่าปีด้วยนะ
แต่ก็สามารถมีวินัยกินได้จนครบทั้งสองครั้ง
อยากบอกทุกคนว่า...อาหารเจไม่ได้เป็นสิ่งไกลตัวอะไรเลยค่ะ
ก็เป็นอาหารประเภทนึงเท่านั้นเอง ที่ไม่มีเนื้อสัตว์และผักฉุน ๕ อย่าง
แต่เรายังสามารถทานเห็ด ผัก เต้าหู้ เยื่อไผ่ ฟองเต้าหู้ หมี่กึง และอื่นๆอีกมากมาย
อร่อยได้โดยไม่ต้องเบียดเบียนชีวิต
การทานเจไม่ได้ยากอย่างที่หลายๆคนคิดนะคะ
คนที่รู้สึกว่าไกลตัวอาจจะเป็นเพราะติดใจในรสชาติของเนื้อสัตว์
จริงๆแล้วอาหารที่ไม่มีเนื้อสัตว์ก็อร่อยได้เหมือนกันค่ะ มันอยู่ที่ฝีมือคนปรุงน่ะ
ถ้าใครไม่เคยทาน มีโอกาสก็ลองทานดูนะคะ
ด้วยความปราถนาดีค่ะ
วันพฤหัสบดีที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2558
วันอาทิตย์ที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2558
คิดบวก ชีวิตบวก ของท่าน ว.วชิรเมธี
วันนี้เปิดไปเจอบทความของท่าน ว.วชิรเมธี ที่เคยเก็บเอาไว้เมื่อนานมาแล้ว
ได้อ่านอีกครั้งก็ยังรู้สึกดี อยากโพสต์ข้อความประทับใจเหล่านี้ ความว่า...
เวลาเจองานหนัก ให้บอกตัวเองว่า นี่คือโอกาสในการเตรียมพร้อมสู่ความเป็นมืออาชีพ
เวลาเจอปัญหาซับซ้อน ให้บอกตัวเองว่า นี่คือบทเรียนที่จะสร้างปัญญาได้อย่างวิเศษ
เวลาเจอความทุกข์หนัก ให้บอกตัวเองว่า นี่คือแบบฝึกหัดที่จะช่วยให้เกิดทักษะในการดำเนินชีวิต
เวลาเจอนายจอมละเมียด ให้บอกตัวเองว่า นี่คือการฝึกตนให้เป็นคนสมบูรณ์แบบ
เวลาเจอคำตำหนิ ให้บอกตัวเองว่า นี่คือการชี้ขุมทรัพย์มหาสมบัติ
เวลาเจอคำนินทา ให้บอกตัวเองว่า นี่คือการสะท้อนว่าเรายังเป็นคนที่มีความหมาย
เวลาเจอความผิดหวัง ให้บอกตัวเองว่า นี่คือวิธีที่ธรรมชาติกำลังสร้างภูมิคุ้มกันให้กับชีวิต
เวลาเจอความป่วยไข้ ให้บอกตัวเองว่า นี่คือการเตือนให้เห็นคุณค่าของการรักษาสุขภาพให้ดี
เวลาเจอความพลัดพราก ให้บอกตัวเองว่า นี่คือบทเรียนของการรู้จักหยัดยืนด้วยขาตัวเอง
เวลาเจอลูกหัวดื้อ ให้บอกตัวเองว่า นี่คือโอกาสทองของการพิสูจน์ความเป็นพ่อแม่ที่แท้จริง
เวลาเจอแฟนทิ้ง ให้บอกตัวเองว่า นี่คือความเป็นอนิจจังที่ทุกชีวิตมีโอกาสพบพาน
เวลาเจอคนที่ใช่แต่เขามีคู่แล้ว ให้บอกตัวเองว่า นี่คือประจักษ์พยานว่าไม่มีใครได้ทุกอย่างดั่งใจหวัง
เวลาเจอภาวะหลุดจากอำนาจ ให้บอกตัวเองว่า นี่คือความเป็นอนัตตาของชีวิตและสรรพสิ่ง
เวลาเจอคนกลิ้งกะล่อน ให้บอกตัวเองว่า นี่คืออุทาหรณ์ของชีวิตที่ไม่น่าเจริญรอยตาม
เวลาเจอคนเลว ให้บอกตัวเองว่า นี่คือตัวอย่างของชีวิตที่ไม่พึงประสงค์
เวลาเจออุบัติเหตุ ให้บอกตัวเองว่า นี่คือคำเตือนว่าจงอย่าประมาทซ้ำอีกเป็นอันขาด
เวลาเจอศัตรูคอยกลั่นแกล้ง ให้บอกตัวเองว่า นี่คือบททดสอบที่เรียกว่า มารไม่มี บารมีไม่เกิด
เวลาเจอวิกฤต ให้บอกตัวเองว่า นี่คือโอกาสพิสูจ์ธรรมะที่ว่า ในทุกวิกฤตย่อมมีโอกาสซ่อนอยู่
เวลาเจอความจน ให้บอกตัวเองว่า นี่คือวิธีที่ธรรมชาติเปิดโอกาสให้เราได้ต่อสู้ชีวิต
เวลาเจอความตาย ให้บอกตัวเองว่า นี่คือฉากสุดท้ายที่จะทำให้ชีวิตมีความสมบูรณ์...
ได้อ่านอีกครั้งก็ยังรู้สึกดี อยากโพสต์ข้อความประทับใจเหล่านี้ ความว่า...
เวลาเจองานหนัก ให้บอกตัวเองว่า นี่คือโอกาสในการเตรียมพร้อมสู่ความเป็นมืออาชีพ
เวลาเจอปัญหาซับซ้อน ให้บอกตัวเองว่า นี่คือบทเรียนที่จะสร้างปัญญาได้อย่างวิเศษ
เวลาเจอความทุกข์หนัก ให้บอกตัวเองว่า นี่คือแบบฝึกหัดที่จะช่วยให้เกิดทักษะในการดำเนินชีวิต
เวลาเจอนายจอมละเมียด ให้บอกตัวเองว่า นี่คือการฝึกตนให้เป็นคนสมบูรณ์แบบ
เวลาเจอคำตำหนิ ให้บอกตัวเองว่า นี่คือการชี้ขุมทรัพย์มหาสมบัติ
เวลาเจอคำนินทา ให้บอกตัวเองว่า นี่คือการสะท้อนว่าเรายังเป็นคนที่มีความหมาย
เวลาเจอความผิดหวัง ให้บอกตัวเองว่า นี่คือวิธีที่ธรรมชาติกำลังสร้างภูมิคุ้มกันให้กับชีวิต
เวลาเจอความป่วยไข้ ให้บอกตัวเองว่า นี่คือการเตือนให้เห็นคุณค่าของการรักษาสุขภาพให้ดี
เวลาเจอความพลัดพราก ให้บอกตัวเองว่า นี่คือบทเรียนของการรู้จักหยัดยืนด้วยขาตัวเอง
เวลาเจอลูกหัวดื้อ ให้บอกตัวเองว่า นี่คือโอกาสทองของการพิสูจน์ความเป็นพ่อแม่ที่แท้จริง
เวลาเจอแฟนทิ้ง ให้บอกตัวเองว่า นี่คือความเป็นอนิจจังที่ทุกชีวิตมีโอกาสพบพาน
เวลาเจอคนที่ใช่แต่เขามีคู่แล้ว ให้บอกตัวเองว่า นี่คือประจักษ์พยานว่าไม่มีใครได้ทุกอย่างดั่งใจหวัง
เวลาเจอภาวะหลุดจากอำนาจ ให้บอกตัวเองว่า นี่คือความเป็นอนัตตาของชีวิตและสรรพสิ่ง
เวลาเจอคนกลิ้งกะล่อน ให้บอกตัวเองว่า นี่คืออุทาหรณ์ของชีวิตที่ไม่น่าเจริญรอยตาม
เวลาเจอคนเลว ให้บอกตัวเองว่า นี่คือตัวอย่างของชีวิตที่ไม่พึงประสงค์
เวลาเจออุบัติเหตุ ให้บอกตัวเองว่า นี่คือคำเตือนว่าจงอย่าประมาทซ้ำอีกเป็นอันขาด
เวลาเจอศัตรูคอยกลั่นแกล้ง ให้บอกตัวเองว่า นี่คือบททดสอบที่เรียกว่า มารไม่มี บารมีไม่เกิด
เวลาเจอวิกฤต ให้บอกตัวเองว่า นี่คือโอกาสพิสูจ์ธรรมะที่ว่า ในทุกวิกฤตย่อมมีโอกาสซ่อนอยู่
เวลาเจอความจน ให้บอกตัวเองว่า นี่คือวิธีที่ธรรมชาติเปิดโอกาสให้เราได้ต่อสู้ชีวิต
เวลาเจอความตาย ให้บอกตัวเองว่า นี่คือฉากสุดท้ายที่จะทำให้ชีวิตมีความสมบูรณ์...
วันอาทิตย์ที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2558
อานิสงค์ ๑๐ ข้อของการไม่กินเนื้อสัตว์
๑.เป็นที่รักใคร่ของบรรดามนุษย์ เทพ พรหม ตลอดจนสัตว์ทั้งหลาย
๒.บังเกิดมหาเมตตาจิต
๓.สามารถตัดขาดความอาฆาต เคียดแค้น ดับอารมณ์เหี้ยมโหดในใจได้
๔.ไม่มีโรคร้ายแรงมาเบียดเบียน
๕.อายุยืน
๖.วัชรเทพทั้ง ๘ คุ้มครอง
๗.ฝันเห็นแต่สิ่งที่ดีงาม เป็นสิริมงคล
๘.ระงับการจองเวร สลายความอาฆาตแค้นได้
๙.ดำรงอยู่ในกระแสพระนิพพาน ไม่ตกสู่อบายภูมิ
๑๐.ทันทีที่ละสังขาร จิตญาณจะมุ่งสู่สุคติภพ
ปล.ดัดแปลงจากเนื้อหาในคู่มือสำหรับชั้นเรียนแปรชะตาเปลี่ยนชีวิต
๒.บังเกิดมหาเมตตาจิต
๓.สามารถตัดขาดความอาฆาต เคียดแค้น ดับอารมณ์เหี้ยมโหดในใจได้
๔.ไม่มีโรคร้ายแรงมาเบียดเบียน
๕.อายุยืน
๖.วัชรเทพทั้ง ๘ คุ้มครอง
๗.ฝันเห็นแต่สิ่งที่ดีงาม เป็นสิริมงคล
๘.ระงับการจองเวร สลายความอาฆาตแค้นได้
๙.ดำรงอยู่ในกระแสพระนิพพาน ไม่ตกสู่อบายภูมิ
๑๐.ทันทีที่ละสังขาร จิตญาณจะมุ่งสู่สุคติภพ
ปล.ดัดแปลงจากเนื้อหาในคู่มือสำหรับชั้นเรียนแปรชะตาเปลี่ยนชีวิต
วันพฤหัสบดีที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2558
เวลามีคนชวนสร้างกรรมดีก็บอกไม่มีเวลา แต่กลับมีเวลา stand by รอสร้างกรรมชั่วอ่ะนะ
เราเป็นคนนึงที่เคยคิดว่าการสร้างบุญควรไปที่วัด
หาเวลาไปนั่งวิปัสนากรรมฐาน ถึงจะสามารถเข้าถึงพระธรรมได้
แต่ตอนนี้เกิดความคิดใหม่หลังจากได้อ่านวลีเด็ดของท่านผู้หนึ่ง(ขออภัยที่จำชื่อท่านไม่ได้)
ท่านให้ไอเดียไว้ว่า
มนุษย์ก็แบบนี้แหละ เอะอะก็อ้างว่าไม่มีมีเวลา ไม่มีมีเวลา ผัดผ่อนออกไปก่อนทุกที
ถามหน่อยเถอะ มีใครรู้บ้างว่าจะมีลมหายใจอยู่ถึงเมื่อไหร่
เมื่อวันสุดท้ายของชีวิตมาถึงจะผัดผ่อนได้อีกไหม
นอกจากคุณงามความดีแล้ว มีอะไรที่เราเอาติดตัวไปได้บ้าง
แต่เวลาที่เรายังมีลมหายใจอยู่กลับให้ความสำคัญกับสิ่งนี้น้อยเหลือเกิน
คิดดูนะ "เรามีเวลาทำบาปทุกวัน ตบยุงบ้าง บี้มดบ้าง พูดเพ้อเจ้อได้เรื่อยๆทั้งวัน
แต่เรากลับ(คิดว่า)ไม่มีเวลาทำบุญ น่ากลัวมั้ย"
เราต้องคิดใหม่นะว่า เรามีโอกาสสร้างความดีได้ในทุกๆวัน
ความดีเล็กๆน้อยๆน่ะ เราทำได้ทุกวันนะ สะสมไปเถอะ
ทำบุญไม่จำเป็นต้องทำกับพระสงฆ์ ง่ายๆก็พระพรหมในบ้านไง
ความกตัญญูนั่นแหละเป็นยอดแห่งความดีทั้งปวง คนที่ไม่รู้จักบุญคุณคนน่ะทำอะไรก็ไม่เจริญหรอก
ส่วนวิปัสนานะ ลองตามดูจิตสิ ง่ายๆเลยก็คือมีสติรู้ตัวอยู่ตลอดเวลาว่ากำลังทำอะไรอยู่
อย่ามาบอกว่าไม่ว่างหายใจนะ เราสามารถมีสมาธิอยู่กับทุกลมหายใจเข้าออกได้เลย
มีสติระลึกรู้ตัวอยู่เสมอว่ากำลังหายใจเข้าหรือออก กำลังก้าวขาซ้ายหรือขวา ฯลฯ
เอาง่ายๆ ว่างหายใจเมื่อไหร่ ก็กำหนดจิตเมื่อนั้น
ลองดูนะ
เป็นกำลังใจให้ทุกๆคนจ้า (รวมตัวเองด้วย) ฮ่าๆ
หาเวลาไปนั่งวิปัสนากรรมฐาน ถึงจะสามารถเข้าถึงพระธรรมได้
แต่ตอนนี้เกิดความคิดใหม่หลังจากได้อ่านวลีเด็ดของท่านผู้หนึ่ง(ขออภัยที่จำชื่อท่านไม่ได้)
ท่านให้ไอเดียไว้ว่า
มนุษย์ก็แบบนี้แหละ เอะอะก็อ้างว่าไม่มีมีเวลา ไม่มีมีเวลา ผัดผ่อนออกไปก่อนทุกที
ถามหน่อยเถอะ มีใครรู้บ้างว่าจะมีลมหายใจอยู่ถึงเมื่อไหร่
เมื่อวันสุดท้ายของชีวิตมาถึงจะผัดผ่อนได้อีกไหม
นอกจากคุณงามความดีแล้ว มีอะไรที่เราเอาติดตัวไปได้บ้าง
แต่เวลาที่เรายังมีลมหายใจอยู่กลับให้ความสำคัญกับสิ่งนี้น้อยเหลือเกิน
คิดดูนะ "เรามีเวลาทำบาปทุกวัน ตบยุงบ้าง บี้มดบ้าง พูดเพ้อเจ้อได้เรื่อยๆทั้งวัน
แต่เรากลับ(คิดว่า)ไม่มีเวลาทำบุญ น่ากลัวมั้ย"
เราต้องคิดใหม่นะว่า เรามีโอกาสสร้างความดีได้ในทุกๆวัน
ความดีเล็กๆน้อยๆน่ะ เราทำได้ทุกวันนะ สะสมไปเถอะ
ทำบุญไม่จำเป็นต้องทำกับพระสงฆ์ ง่ายๆก็พระพรหมในบ้านไง
ความกตัญญูนั่นแหละเป็นยอดแห่งความดีทั้งปวง คนที่ไม่รู้จักบุญคุณคนน่ะทำอะไรก็ไม่เจริญหรอก
ส่วนวิปัสนานะ ลองตามดูจิตสิ ง่ายๆเลยก็คือมีสติรู้ตัวอยู่ตลอดเวลาว่ากำลังทำอะไรอยู่
อย่ามาบอกว่าไม่ว่างหายใจนะ เราสามารถมีสมาธิอยู่กับทุกลมหายใจเข้าออกได้เลย
มีสติระลึกรู้ตัวอยู่เสมอว่ากำลังหายใจเข้าหรือออก กำลังก้าวขาซ้ายหรือขวา ฯลฯ
เอาง่ายๆ ว่างหายใจเมื่อไหร่ ก็กำหนดจิตเมื่อนั้น
ลองดูนะ
เป็นกำลังใจให้ทุกๆคนจ้า (รวมตัวเองด้วย) ฮ่าๆ
วันเสาร์ที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2558
อานิสงค์ พระบรมมหารัตน เทวราชโองการ ไขความลับของนรกภูมิ
- คัดลอกพระโอวาท แนะนำให้คนกลับตัว
เมื่อสิ้นอายุขัยจะมีกุลบุตรรับใช้ของพระอมิตาพุทธเจ้ามาพาไปแดนสุขาวดี
- คัดลอกทั้งฉบับและอานิสงค์กฏแห่งกรรมท้ายเล่ม
ได้อานิสงค์ด้วยถ้ามีผู้อ่านแล้วเว้นผิด
- จัดพิมพ์ พระบรมมหารัตน เทวราชโองการ ให้ชาวโลกสังวรโทษ
- ถ้าไม่มีความผิดตำหนัก ๙ จะได้ไปเกิดเป็นมนุษย์ในวาสนาภูมิ
ตำหนักที่ ๑๐ จ่วนหลุนหวัง
ภารกิจ จำแนกวิญญาณไปเกิด
มีหอลืมชาติ ที่ดื่มน้ำล้างความทรงจำ
กรณีตัวอย่างน่าสนใจ
มีวิญญาณสาวยอมเป็นเปรต ไม่ยอมเป็นมนุษย์ เพราะเคยถูกชายชั่วหลอกร่วมประเวณีแล้วไม่ยอมรับ ทั้งยังประจานให้อับอาย โดยตอนนี้ชายชั่วกำลังจะได้เป็นขุนนางจึงขอไปทวงหนี้ มีผลทอนตำแหน่งชายชั่วก่อน เพราะเขายังไม่สิ้นอายุและมีอานิสงค์บุพการีครอบคลุม รอจนสิ้นอายุขัยจึงมารับโทษ
ถ้า แรม ๒ ค่ำ เดือน ๔ ปณิธานนำคำสอนไปบอกผู้อื่น ชาติหน้าจะได้เป็นมนุษย์ ไม่ถูกผู้อื่นดูหมิ่น ไม่ต้องคดีความ ไม่ได้รับอันตรายจากน้ำไปลวกกาย
มีหอลืมชาติ ที่ดื่มน้ำล้างความทรงจำ
กรณีตัวอย่างน่าสนใจ
มีวิญญาณสาวยอมเป็นเปรต ไม่ยอมเป็นมนุษย์ เพราะเคยถูกชายชั่วหลอกร่วมประเวณีแล้วไม่ยอมรับ ทั้งยังประจานให้อับอาย โดยตอนนี้ชายชั่วกำลังจะได้เป็นขุนนางจึงขอไปทวงหนี้ มีผลทอนตำแหน่งชายชั่วก่อน เพราะเขายังไม่สิ้นอายุและมีอานิสงค์บุพการีครอบคลุม รอจนสิ้นอายุขัยจึงมารับโทษ
ถ้า แรม ๒ ค่ำ เดือน ๔ ปณิธานนำคำสอนไปบอกผู้อื่น ชาติหน้าจะได้เป็นมนุษย์ ไม่ถูกผู้อื่นดูหมิ่น ไม่ต้องคดีความ ไม่ได้รับอันตรายจากน้ำไปลวกกาย
ตำหนักที่ ๙ ผงเติ่งหวัง
ประกอบด้วยนรกเล็ก(อนุนรก) ๑๖ ขุม
- วางเพลิง
- ทำยาบ้า
- ทำคุณไสย
- ทำแท้ง
- บั่นทอนอสุจิเด็กวัยรุ่น
- วาด/ถ่ายรูปอนาจาร แต่งหนังสือลามก
- ปรุุงยาสลบเพื่อลักทรัพย์หรือทำลายหญิง
- ปรุุงยาขับเลือด แท้งลูก
ถ้าอ่านเทวราชโองการ แล้ว
- ผลงานทั้งหมดถูกทำลาย
จึงจะส่งไปเกิดใน ๖ วิถี
ถ้าไม่เคยทำผิดเหล่านี้
๘ ค่ำ เดือน ๔
๑ ค่ำ , ๑๕ ค่ำ ของทุกเดือน
ถือศีลกินเจ
ซื้อหนังสืออนาจารไปทำลาย
เศรษฐีตั้งรางวัลนำจับ
ลูกหลานเป็นขุนนางตลอด
คนจนช่วยคัดลอกหนังสือ
- เคาะกระดูกไฟลวก
- บดกระดูกเลาะเอ็น
- อีกาจิกหัวใจ
- หมาแทะกินลำไส้
- เคี่ยวน้ำมันกระเซ็นร่าง
- รัดสมองถอนฟันลากลิ้น
- ยัดตัวเม่นใส่สมอง
- ตัดหัวนึ่งสมอง
- กระตุกชัก
- ไม้หนีบเจียหัว
- เจียหัวใจ
- น้ำร้อนลวกกาย
- ผึ้งแตน
- แมงป่องต่อย
- มดพิษ
- อสรพิษเจาะร่าง
- วางเพลิง
- ทำยาบ้า
- ทำคุณไสย
- ทำแท้ง
- บั่นทอนอสุจิเด็กวัยรุ่น
- วาด/ถ่ายรูปอนาจาร แต่งหนังสือลามก
- ปรุุงยาสลบเพื่อลักทรัพย์หรือทำลายหญิง
- ปรุุงยาขับเลือด แท้งลูก
ถ้าอ่านเทวราชโองการ แล้ว
- สำนึกผิด ทำลายหนังสืออนาจาร ทำลายสูตรยา ให้เว้นโทษตำหนักนี้
- ยังทำต่อ เพิ่มโทษเป็นวิธีหฤโหด และไปลงอเวจีจนกว่า
- ผลงานทั้งหมดถูกทำลาย
จึงจะส่งไปเกิดใน ๖ วิถี
ถ้าไม่เคยทำผิดเหล่านี้
๘ ค่ำ เดือน ๔
๑ ค่ำ , ๑๕ ค่ำ ของทุกเดือน
ถือศีลกินเจ
ซื้อหนังสืออนาจารไปทำลาย
- ตำหนัก ๒ ถึง ๙ ถูกลดหย่อนตามกุศลกรรม
เศรษฐีตั้งรางวัลนำจับ
ลูกหลานเป็นขุนนางตลอด
คนจนช่วยคัดลอกหนังสือ
- ไปเกิดในแดนบุญ
ตำหนักที่ ๘ ตูซื่อหวัง
ประกอบด้วยนรกเล็ก(อนุนรก) ๑๖ ขุม
ไม่กตัญญู และไม่สำนึกผิด
ถ้า ๑ ค่ำ เดือน ๔ สำนึกผิดและสาบานต่อหน้าเทพเตา ให้
- รถทับร่าง
- หม้ออบ
- แล่เนื้อถึงกระดูก
- มัดในรู
- ตัดลิ้น
- ถ่ายไม่หยุด
- ตัดแขนขา
- ทอดเครื่องใน
- ย่างไขกระดูก
- คลานในลำไส้
- เผาเกรียม
- เปิดช่องท้อง
- ผ่าอก
- เปิดศรีษะงัดฟัน
- ผ่าตัด
- ง่ามเหล็ก
ไม่กตัญญู และไม่สำนึกผิด
- เทพเจ้าเตาไฟรายงานลดโชคลาภ ถูกปีศาจหลอกหลอน
- รับโทษอนุนรกข้างต้น
- ไปตำหนัก ๘ โดนโยนลง มหานรกอิฐเผาร้อน เพิ่มโทษที่อนุนรกจนสาสม
- ไปตำหนัก ๑๐ เกิดเป็นสัตว์เดรัจฉานตลอด
ถ้า ๑ ค่ำ เดือน ๔ สำนึกผิดและสาบานต่อหน้าเทพเตา ให้
- เว้นโทษตำหนักนี้
- ๗ ตำหนักก่อนหน้าลดโทษกึ่งหนึ่ง
- ถ้าตำหนัก ๙ ไม่มีข้อหา ไปเกิดเป็นมนุษย์เลย
ตำหนักที่ ๗ ไท่ซันหวัง
ประกอบด้วยนรกเล็ก(อนุนรก) ๑๖ ขุม
- ใช้รกมาทำยา
- ค่าสุราเมรัยมากกว่าค่าใช้จ่ายประจำวัน
- ปล้นสะดม
- โจรกรรม
- ใส่ร้ายให้ผู้อื่นทะเลาะกัน
- ขายลูกสะใภ้
- ปล่อยเมียเอาลูกสาวไปกดน้ำตาย
- ฆ่าทารก
- ยักยอกเงิน
- เป็นครูไม่เข้มงวดศิษย์ ลูกหลานเค้าเสียเด็ก
- เอะอะก็ทำร้ายคนอื่นบาดเจ็บภายใน
- รีดไถ
- แกล้งเมาแล้วเสียมารยาท ผิดทำนองคลองธรรม
- ใส่ร้ายผู้อื่นเป็นอาจิณ
- เอาเนื้อคนมาทำอาหาร->เพิ่มโทษอีก ๔๙ วัน และ เมื่อเกิดใหม่ก็อดอยาก
กินเนื้อคน
- รู้แล้วยังกินอีก-> เกิดชาติหน้า คอบวม อดอยากจนตาย
- ไม่กินอีก แจกอาหารคนประสบภัย-> ชดเชยความผิด เพิ่มอายุวาสนาแก่ชาติหน้า
จะถูกส่งไปรับโทษในที่ต่อไปนี้
๑๒ ค่ำ เดือน ๓
ถือศีลกินเจ
สาบานเว้นบาป
พิมพ์เทวราชโองการทั้งเล่มเพื่อเตือนชาวโลก
- ทุบจมูกกลืนเลือดกำเดาตัวเอง
- แหวกอก
- เจาะน่องบ่อเพลิง
- ง่ามไม้คัดผม
- หมากัดกระดูกต้นคอ
- ร้องไห้บนฐานสุนัขเหล็กร้อน
- ผ่ากะโหลกเปิดหน้าผาก
- ย่อตัวทูนหิน
- นกเป้าจิก หมูป่ากัด
- ถลกหนังให้หมูลาก
- ไม้ไผ่แขวนขา
- ตัดลิ้นเจาะแก้ม
- ลากไส้
- ล่อเหยียบ หมูป่ากัด
- รางเหล็กร้อนลวกนิ้วมือ
- กระทะทองแดง
- ใช้รกมาทำยา
- ค่าสุราเมรัยมากกว่าค่าใช้จ่ายประจำวัน
- ปล้นสะดม
- โจรกรรม
- ใส่ร้ายให้ผู้อื่นทะเลาะกัน
- ขายลูกสะใภ้
- ปล่อยเมียเอาลูกสาวไปกดน้ำตาย
- ฆ่าทารก
- ยักยอกเงิน
- เป็นครูไม่เข้มงวดศิษย์ ลูกหลานเค้าเสียเด็ก
- เอะอะก็ทำร้ายคนอื่นบาดเจ็บภายใน
- รีดไถ
- แกล้งเมาแล้วเสียมารยาท ผิดทำนองคลองธรรม
- ใส่ร้ายผู้อื่นเป็นอาจิณ
- เอาเนื้อคนมาทำอาหาร->เพิ่มโทษอีก ๔๙ วัน และ เมื่อเกิดใหม่ก็อดอยาก
กินเนื้อคน
- รู้แล้วยังกินอีก-> เกิดชาติหน้า คอบวม อดอยากจนตาย
- ไม่กินอีก แจกอาหารคนประสบภัย-> ชดเชยความผิด เพิ่มอายุวาสนาแก่ชาติหน้า
จะถูกส่งไปรับโทษในที่ต่อไปนี้
- มหานรก
- อนุนรกต่างๆ (พิจารณาตามความผิด)
- ไปตำหนักสิบ เกิดเป็นคนไม่สมประกอบ
๑๒ ค่ำ เดือน ๓
ถือศีลกินเจ
สาบานเว้นบาป
พิมพ์เทวราชโองการทั้งเล่มเพื่อเตือนชาวโลก
ตำหนักที่ ๖ เปี้ยนเฉินหวัง
ประกอบด้วยนรกเล็ก(อนุนรก) ๑๖ ขุม
เกณฑ์ลงโทษผู้ทำผิดต่อไปนี้
- สาบแช่งดินฟ้า
- ถ่ายหรือร้องไห้หันทางทิศเหนือ
- โจรกรรมพุทธรุป ขูดลอกทองพุทธรูป
- เรียกชื่อเทพไม่เคารพ
- ไม่ถนอมหนังสือธรรมะ
- ทำให้สถานที่ศักดิ์สกปรก
- แท่นบูชาหรือเตาไม่สะอาด
- กินเนื้อโคหรือสุนัข
- สะสมหนังสือมิจฉาวิชา ลามก
- ขีดฆ่าทำลายหนังสือธรรรมะ
- วาดภาพเทพชั้นสูงลงเครื่องปั้นดินเผา
- กินทิ้งกินขว้าง
- กักข้าวสารหวังเก็งกำไรสูงๆ
จะถูกส่งไปรับโทษในที่ต่อไปนี้
เว้นโทษถ้า
เดือน ๕ - 14 ค่ำ, 15 ค่ำ, แรม 1 ค่ำ
เดือน ๑๐ - 10 ค่ำค่ำ
3.ตั้งปณิธานบอกต่อผู้อื่น
- คุกเข่าบนทรายเหล็ก
- แช่กายในโคลนปัสสาวะ
- โม่ให้เลือดไหล
- งัดปากอมเข็ม
- หนูตัดอวัยวะเพศ
- ตาข่ายหนามตั๊กแตนแทะสมอง
- ตำเนื้อจนแหลก
- แหวกหนังบนเนื้อ
- ยัดไฟปิดคอ
- ปิ้งย่าง
- หนองอาจม
- วัวขวิด ม้ากระทืบ
- เจาะทวาร
- เจาะหัว เปิดกระโหลก
- ตัดเอว
- ลอกหนังพับหญ้า
เกณฑ์ลงโทษผู้ทำผิดต่อไปนี้
- สาบแช่งดินฟ้า
- ถ่ายหรือร้องไห้หันทางทิศเหนือ
- โจรกรรมพุทธรุป ขูดลอกทองพุทธรูป
- เรียกชื่อเทพไม่เคารพ
- ไม่ถนอมหนังสือธรรมะ
- ทำให้สถานที่ศักดิ์สกปรก
- แท่นบูชาหรือเตาไม่สะอาด
- กินเนื้อโคหรือสุนัข
- สะสมหนังสือมิจฉาวิชา ลามก
- ขีดฆ่าทำลายหนังสือธรรรมะ
- วาดภาพเทพชั้นสูงลงเครื่องปั้นดินเผา
- กินทิ้งกินขว้าง
- กักข้าวสารหวังเก็งกำไรสูงๆ
จะถูกส่งไปรับโทษในที่ต่อไปนี้
- มหานรก
- อนุนรกต่างๆ (พิจารณาตามความผิด)
- ไปตำหนักเจ็ดต่อ ว่ายังมีความผิดอื่นเหลืออยู่หรือไม่
เว้นโทษถ้า
- ๘ ค่ำ เดือน ๓ ถือศีลกินเจและสาบานว่าจะไม่ทำอีก
- เว้นร่วมสังวาสใน
ตำหนักที่ ๕ เอี๋ยนหลัวหวัง
วิญญาณที่ถูกส่งมานี้ ผ่าน หอดูบ้าน แล้วไปอนุนรกต่อ ได้แก่
- ควักหัวใจ - ผู้ไม่นับถือเทพ สงสัยอานิสงค์กฏแห่งกรรม
- ควักหัวใจ - ผู้ชอบฆ่าสัตว์
- ควักหัวใจ - ผู้ทำปณิธานกุศลไม่สำเร็จแต่ก่อบาปไม่หยุด
- ควักหัวใจ - ผู้เข้าหาอธรรม ฝึกมิจฉาสมาธิเพื่อคงกระพัน
- ควักหัวใจ - ผู้รังแกคนดี กลัวคนชั่ว อยากให้คนที่เกลียดตายเร็วๆ
- ควักหัวใจ - ผู้คิดเล็กคิดน้อย ใส่ร้ายผู้อื่น
- ควักหัวใจ - ผู้วางแผนข่มขืนหรือใช่เล่ห์หลอก
- ควักหัวใจ - ผู้ทำลายผู้อื่นเพื่อประโยชน์ตัวเอง
- ควักหัวใจ - ผู้ขี้เหนียว ไม่ห่วงชีวิตที่ตกในอันตราย
- ควักหัวใจ - ผู้ชอบโจรกรรม
- ควักหัวใจ - ผู้เนรคุณคน ทำคุณบูชาโทษ
- ควักหัวใจ - ผู้ท้าตีท้าต่อย ให้ผู้อื่นเดือดร้อน
- ควักหัวใจ - ผู้ใช้มิจฉาวาจาปลุกระดมชาวบ้าน
- ควักหัวใจ - ผู้ยุยงผู้อื่นทำร้ายคนที่ตนอยากทำลาย
- ควักหัวใจ - ผู้เกลียดคนดี อิจฉาคนเก่ง
- ควักหัวใจ - ผู้กล่าวร้ายผู้อื่น และดื้อด้านไม่ยอมแก้
- ไม่เชื่อเรื่องมรรคผล ขัดขวางสร้างกุศล
- ทำลายหนังสือที่เตือนชาวโลกทำดี
- กินเนื้อ เมาเหล้า
- รังเกียจคนสวดมนต์ไหว้พระ
- ทำพิธีศาสนาโดยไม่ถือศีลกินเจ
- กล่าวร้ายศาสนา
- คนที่รู้หนังสือแต่ไม่ยอมอ่านบทความอานิสงค์กฎแห่งกรรมให้เด็ก สตรี ฟัง
- ทำลายฮวงซุ้ยคนอื่นแล้วกลบเกลื่อนร่องรอย
- เผาป่า ไม่กวดขันผู้น้อยระวังฟืนไฟ
- ยิงปืนหรือธนูแบบไร้เป้า
- หลอกหรือบังคับคนป่วยหรืออ่อนแอมาพนันเรื่องใช้แรง
- ขว้างอิฐข้ามกำแพงทำร้ายคนข้างบ้าน
- ลอกคลองจับปลาหรือเบื่อปลา
- ดักนก
- ใช้น้ำเกลือรดสนามหญ้า
- กลบแมวตายหรืองูพิษไม่ลึก ปล่อยคนขุดมารับอันตราย
- พรวนดินในฤดูหนาว
- ทำลายกำแพง เปลี่ยนเตาไฟ
- เปลี่ยนตำแหน่งขุนนางโดยพลการ
- ใช้อำนาจยึดที่ชาวบ้าน
- ถมบ่อน้ำ
ถ้า
๘ ค่ำ เดือน ๑ ถือศีลกินเจ สาบานไม่ทำอีก จะได้เว้นโทษตำหนัก ห้า และสามารถให้ปากคำเพื่อขอลดโทษตำหนัก ๖
(จะไม่ลดโทษให้กับ ผู้ชอบฆ่าสัตว์ เข้าหาอธรรม ข่มขืน ขี้อิจฉามักมากกาเม ชอบทำลายชื่อเสียงพรหมจรรย์ผู้อื่น จิตมืดบอดบิดพริ้วขี้ขโมย เนรคุณ อ่านบทเตือนชาวโลกแล้วไม่กลับใจ)
ตำหนักที่ ๔ อู่กวนหวัง
ประกอบด้วยนรกเล็ก(อนุนรก) ๑๖ ขุม
- เลี่ยงภาษี
- โกงตราชั่ง
- ทำยาปลอม ขายของปลอมปน
- ไม่หลีกทาง เด็ก คนแก่ คนพิการ
- เอาเปรียบคนอื่น
- รับฝากจม.แล้วไม่รีบส่ง
- ขโมยอิฐ เทียน น้ำมัน
- จนแล้วไม่เจียม
- รวยแต่ไม่ช่วยคนแก่คนจน ช่วงแรกรับปากไว้ แต่พอถึงเวลาจริงๆกลับปฏิเสธ ทำให้เค้าเสียหาย
- เห็นคนเจ็บแต่ไม่ช่วย ตระหนี่ยา มีสูตรยาดี ไม่เปิดเผย
- ทิ้งกากตามทาง
- เลี้ยงสัตว์โดยไม่จำเป็นและสัตว์ไปถ่ายตามทาง ผู้สัญจรเดือดร้อน
- ปล่อยไร่นารกร้าง
- ทำกำแพงผู้อื่นเสียหาย
- ใช้อาคมทำคุณไสย กุเรื่องสยองหลอกชาวบ้าน
จะถูกส่งไปรับโทษในที่ต่อไปนี้
๓ ค่ำ เดือน ๒ สำนึกและสาบานว่าจะไม่ทำผิดอีก จึงจะไม่ต้องรับโทษในตำหนักนี้
- สระหิน
- ย่ำโซ่ไผ่แหลม
- น้ำร้อนลวกมือ
- ตบหน้าน้ำหนองไหล
- ตัดเส้นเอ็นเลาะกระดูก
- ล็อคไหล่ขูดหนัง
- เฉือนผิวหนัง
- นั่งยองย่อบนยอด
- เสื้อเหล็ก
- ทับร่างด้วย ขอนไม้ อิฐ หิน ปูนทราย
- แทงตา
- บินทับอุดปาก
- กรอกยา
- ไถลน้ำมันเมล็ดถั่ว
- แทงปาก
- หินเล็กกลบร่าง
- เลี่ยงภาษี
- โกงตราชั่ง
- ทำยาปลอม ขายของปลอมปน
- ไม่หลีกทาง เด็ก คนแก่ คนพิการ
- เอาเปรียบคนอื่น
- รับฝากจม.แล้วไม่รีบส่ง
- ขโมยอิฐ เทียน น้ำมัน
- จนแล้วไม่เจียม
- รวยแต่ไม่ช่วยคนแก่คนจน ช่วงแรกรับปากไว้ แต่พอถึงเวลาจริงๆกลับปฏิเสธ ทำให้เค้าเสียหาย
- เห็นคนเจ็บแต่ไม่ช่วย ตระหนี่ยา มีสูตรยาดี ไม่เปิดเผย
- ทิ้งกากตามทาง
- เลี้ยงสัตว์โดยไม่จำเป็นและสัตว์ไปถ่ายตามทาง ผู้สัญจรเดือดร้อน
- ปล่อยไร่นารกร้าง
- ทำกำแพงผู้อื่นเสียหาย
- ใช้อาคมทำคุณไสย กุเรื่องสยองหลอกชาวบ้าน
จะถูกส่งไปรับโทษในที่ต่อไปนี้
- มหานรก
- อนุนรกต่างๆ (พิจารณาตามความผิด)
- ไปตำหนักห้าต่อ
๓ ค่ำ เดือน ๒ สำนึกและสาบานว่าจะไม่ทำผิดอีก จึงจะไม่ต้องรับโทษในตำหนักนี้
ตำหนักที่ ๓ ซ่งตี้หวัง
ประกอบด้วยนรกเล็ก(อนุนรก) ๑๖ ขุม
- ลืมคุณกษัตริย์ เป็นขุนนางแต่ไม่ซื่อสัตย์
- เป็นประชาชนแต่ไม่สำนึกคุณแผ่นดิน
- ภรรยาแต่ไม่เคารพหรือผิดต่อสามี
- เนรคุณพ่อแม่บุญธรรม หนีไปอยู่กับบุพการี
- คนใช้ที่เนรคุณเจ้านาย
- ข้าราชการที่ผิดต่อผู้บังคับบัญชา
- ลูกจ้างที่ผิดต่อนายจ้าง
- นักโทษแหกคุก หนีทหาร หนีคดี ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน
- เน้นฮวงซุ้ย จน ขวางการฝังศพ หรือ กระเทือนกระดูกเก่า
- โกงภาษี
- ไม่ดูแลหลุมบรรพบุรุษปล่อยให้ถูกทำลาย
- ล่อลวงผู้อื่นทำผิดกฎหมาย
- ยุยงคนอื่นต่อสู้คดี
- เขียนบัตรสนเท่ห์
- เปิดเทียบใบหย่า
- ปลอมแปลงเอกสาร
- ปลอมแปลงหรือโกงใบจำนำ
จะถูกส่งไปรับโทษในที่ต่อไปนี้
ถ้า ๘ ค่ำ เดือน ๒ สาบานว่าจะไม่ทำผิดอีก อนุญาตให้ไม่ต้องรับโทษ
- กรดเกลือ
- คาขันรัดคอด้วยเชือกปอ
- เจาะทะลุซี่โครง
- เฉือนหน้าด้วยเหล็ก
- ขูดไขมัน
- คีมหนีบหัวใจ
- ควักลูกตา
- ถากหนัง
- ตัดขาทั้งคู่
- ถอนเล็บมือเล็บเท้า
- ดูดเลือด
- แขวนห้อยหัว
- แยกกระดูกไหล่
- บ่อหนอน
- ทุบหัวเข่า
- คราดหัวใจ
- ลืมคุณกษัตริย์ เป็นขุนนางแต่ไม่ซื่อสัตย์
- เป็นประชาชนแต่ไม่สำนึกคุณแผ่นดิน
- ภรรยาแต่ไม่เคารพหรือผิดต่อสามี
- เนรคุณพ่อแม่บุญธรรม หนีไปอยู่กับบุพการี
- คนใช้ที่เนรคุณเจ้านาย
- ข้าราชการที่ผิดต่อผู้บังคับบัญชา
- ลูกจ้างที่ผิดต่อนายจ้าง
- นักโทษแหกคุก หนีทหาร หนีคดี ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน
- เน้นฮวงซุ้ย จน ขวางการฝังศพ หรือ กระเทือนกระดูกเก่า
- โกงภาษี
- ไม่ดูแลหลุมบรรพบุรุษปล่อยให้ถูกทำลาย
- ล่อลวงผู้อื่นทำผิดกฎหมาย
- ยุยงคนอื่นต่อสู้คดี
- เขียนบัตรสนเท่ห์
- เปิดเทียบใบหย่า
- ปลอมแปลงเอกสาร
- ปลอมแปลงหรือโกงใบจำนำ
จะถูกส่งไปรับโทษในที่ต่อไปนี้
- มหานรก
- อนุนรกต่างๆ (พิจารณาตามความผิด)
- ไปตำหนักสี่ต่อ
ถ้า ๘ ค่ำ เดือน ๒ สาบานว่าจะไม่ทำผิดอีก อนุญาตให้ไม่ต้องรับโทษ
ตำหนักที่ ๒ ฉู่เจียงหวัง
ประกอบด้วยนรกเล็ก(อนุนรก) ๑๖ ขุม
- หมั่นแนะนำเทวราชโองการ
- เห็นคนเจ็บบริจาคยา
- เห็นคนอดอยากบริจาคอาหาร
- เห็นคนตกทุกข์บริจาคเงิน
--> ส่งไป ตำหนัก ๑๐ ให้เกิดเป็นมนุษย์
และสำหรับผู้ที่
- รักสรรพสัตว์
- ไม่ฆ่าสัตว์
- สอนเด็กไม่ให้ทำร้ายสัตว์
ถ้า ๑ ค่ำเดือน ๓ สาบานจะเว้นฆ่าสัตว์ และ ปล่อยสัตว์
อนุญาตให้ไม่ต้องผ่านนรกต่างๆ ไปเกิดในแดนบุญเลย
- กาฬเมฆทราย
- โคลนตมปัสสาวะอาจม
- ห้าฉมวก
- อดอยาก
- หิวกระหาย
- หนองเลือด
- ขวานทองแดง
- มหัตขวานทองแดง
- เสื้อเกราะเหล็ก
- ปินเลี่ยง
- ไก่เหล็ก
- แม่น้ำเทา
- ตัดท่อน
- ใบมีด
- หมาป่าสุนัขจิ้งจอก
- น้ำแข็ง
- ลวงเยาวชนไปบวช
- บวชไม่สมัครใจ
- โกหกว่าของที่ผู้อื่นเคยเอามาฝากหายเพื่อจะไม่คืน
- ทำร้าย หู/ตา/มือ/เท้า ผู้อื่น
- ใช้ยาไม่มีคุณภาพหรือไม่ถูกกับโรคมารักษาคนไข้
- ไม่ให้สาวใช้ไถ่ตัว
- เจรจาเรื่องคู้ครองโดยปกปิดความจริง เมื่อแต่งงานแล้ว เค้าต้องรับทุกข์ตลอดชีวิต
- มหานรก
- อนุนรกต่างๆ (พิจารณาตามความผิด)
- ไปตำหนักสามต่อ
- หมั่นแนะนำเทวราชโองการ
- เห็นคนเจ็บบริจาคยา
- เห็นคนอดอยากบริจาคอาหาร
- เห็นคนตกทุกข์บริจาคเงิน
--> ส่งไป ตำหนัก ๑๐ ให้เกิดเป็นมนุษย์
และสำหรับผู้ที่
- รักสรรพสัตว์
- ไม่ฆ่าสัตว์
- สอนเด็กไม่ให้ทำร้ายสัตว์
ถ้า ๑ ค่ำเดือน ๓ สาบานจะเว้นฆ่าสัตว์ และ ปล่อยสัตว์
อนุญาตให้ไม่ต้องผ่านนรกต่างๆ ไปเกิดในแดนบุญเลย
ตำหนักที่ ๑ ฉินกว่างหวัง
ภารกิจ ปกครองจัดการอายุขัยมนุษย์
(ทะเบียนสูติมรณะ)
สาธุชนเมื่อสิ้นอายุขัย จะถูกนำไปภพใหม่
ถ้ามีกุศลกรรมและอกุศลกรรมเท่ากัน
จะส่งต่อไปตำหนัก ๑๐ เพื่อเกิดเป็นมนุษย์
ถ้าสร้างกุศลน้อย จะเข้า หอกระจกส่องกรรม
เกณฑ์ลงโทษผู้ทำผิด
- ฆ่าตัวตาย โดยยังไม่สำนึกคุณฟ้าดินพ่อแม่ (กุศลกรรมนำมาลดโทษไม่ได้)
- จะถูกส่งไปโรงหิวกระหาย
- รับความทรมานก่อนสิ้นใจซ้ำแล้วซ้ำเล่า
- ถูกนำไปที่ฆ่าตัวตาย ห้ามรับของเซ่น
- ถ้าสำนึกผิด ไม่ปรากฏร่างให้ผู้คนตกใจ จับมนุษย์มาแทนตัวเอง
->ส่งกลับตำหนัก ๑ แล้ว ส่งตัวไปตำหนัก ๒ ต่อ
- หลอกมนุษย์จนช็อคตาย รับโทษที่นรกขุมต่างๆและส่งไปอเวจี
ยกเว้น ตายเพราะ
- จงรักภักดีกษัตริย์
- กตัญญูพ่อแม่
- รักษาความซื่อสัตย์ สัตย์ธรรม
ตายแล้วจะได้เป็นเทพ
- ภิกษุที่ "รับจ้างสวด" พระอภิธรรม (ได้ปัจจัยจากมนุษย์) แล้วสวดตกหล่น
ปล.ไม่นับรวมถึง สาธุชนที่สวดเองในบ้าน และ แม่ชี ที่สวดมนต์ตกหล่น
อานิสงค์คัดลอกพระโอวาท
แนะนำให้คนกลับตัว
เมื่อสิ้นอายุขัยจะมีกุลบุตรรับใช้ของพระอมิตาพุทธเจ้ามาพาไปแดนสุขาวดี
พระบรมมหารัตน เทวราชโองการ ไขความลับของนรกภูมิ
แท้จริงแล้ว นรกภูมิมี ๑๐
ตำหนักใหญ่
โดยในแต่ละตำหนัก ก็ยังแบ่งเป็นตำหนักย่อยๆอีก
ตำหนักใหญ่ทั้ง ๑๐ ได้แก่
ตำหนักที่ ๑ ฉินกว่างหวัง
ตำหนักที่ ๒ ฉู่เจียงหวัง
ตำหนักที่ ๓ ซ่งตี้หวัง
ตำหนักที่ ๔ อู่กวนหวัง
ตำหนักที่ ๕ เอี๋ยนหลัวหวัง
ตำหนักที่ ๖ เปี้ยนเฉินหวัง
ตำหนักที่ ๗ ไท่ซันหวัง
ตำหนักที่ ๘ ตูซื่อหวัง
ตำหนักที่ ๙ ผงเติ่งหวัง
ตำหนักที่ ๑๐ จ่วนหลุนหวัง
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)